วันพ่อแห่งชาติ



ประวัติความเป็นมาของวันพ่อ

  วันพ่อแห่งชาติได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่ม หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อ เนื่องจากพ่อเป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระึุคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ ๕ ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ อีกทั้งยังทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ทรงรักใคร่ห่วงใย ตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบันและพระหลานเธอทุกๆพระองค์จ่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น" พ่อ " ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้

วัตถุประสงค์

  • เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  • เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อและยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม
  • เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ
  • เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน
กิจกรรม
  • ประดับธงชาติที่อาคารบ้านเรือน
  • จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญประโยชน์หรือทำบุญใส่บาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงพระคุณพ่อ
  • จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมยกย่องผู้ที่สมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นพ่อตัวอย่าง
หน้าที่ของบิดามาดารพึ่งมีต่อบุตร
  • ห้ามมิให้ทำความชั่วร้าย ป้องกัน ห้ามปรามมิให้พฤติตนเสียหาย
  • ให้ตั้งอยู่ในความดี ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม วัฒนธรรมแระเพณีและกฏหมายบ้านเมือง
  • ให้การศึกษาและส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาที่ดีทั้งคดีโลกและคดีธรรม
  • หาคู่ครองที่สมควรให้ เลือกคู่ครองที่คู่ควรเหมาะให้ในเวลาควร
  • มอบทรัพย์สมบัติให้ดูแลเมื่อถึงเวลาอันสมควร มอบหน้าที่การงานให้บริหารและมอบมรดกให้ครอบครอง
หน้าที่ของบุตรพี่งมีต่อบิดามารดา
  • เลี้ยงดูบิดามารดาเป็นการตอบแทนอย่าปล่อยให้ท่านอดรันทดใจในวัยชรา
  • ช่วยทำกิจการงานของท่าน ไม่นิ่งดูดายเป้นคนไร้น้ำใจเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่
  • ดำรงวงศ์ตระกูล ไม่ทำตระกูลให้เสื่อมเสียหาย
  • ประพฤติตนให้สมควรได้รับทรัพย์มรดก ประพฤติตนใ้ห้ท่านไว้ใจที่จะครอบครองสมบัติ
  • ท่านเจ็บป่วยต้องรักษา ท่านมรณาต้องทำศพให้ ทำความปราถนาของพ่อแม่มิให้พังทลาย


                                             ดอกไม้สัญลักษณ์วันพ่อคือดอกพุทธรักษา




                                                    ภาพกิจกรรมทั้วไปเกี่ยวกับวันพ่อ










Thai eller thailändska är det officiella språket i Thailand. Thai språket skapats av kung Ramkhamheang. Thailändska är blandning av pali ( medelindiskt språk), sanskrit ( klassisk indiska ) och khmer ( kambodja språket ). Thai tillhör språkfamiljen Tai-Kadaispråk. Thaiskrift har 44 konsonanttecken som representerar 21 distinkta konsonantljud och 48 vokal och diftong ljud. Dessutom finns fyra stycken tonmärken och tre andra specialsymboler upprepning förkortning och etcetera. Thailändska finns fen toner- låg, normal, hög, stigande och fallande ton. När man säger ett ord med exempelvis stigande eller fallande ton så kan det betyda helt skilda saker. Toner är svårt att lära sig för västerlänningar när det gäller att lära sig perfekt uttal, eftersom fem fonemiska toner inte förekommer i europeiska. Grammatik är enkel. Mening struktur bygger på rak ordföljd Subjekt + verb+ objekt och adjektiv följer efter substantiv. Det finns inte plural form i thailändska. Det har inte tempus. Ett ord eller två ord är adderade för att bestämma dåtid eller framtid. Det håller sig till en enkel present form och använder inte slang och uttalar inte heller ljud som "th" och "z". Vilket inte alls finns i det thailändska språket. vissa Thailändska ljud finns inte heller i västeuropeiska språk. I Thailändska skrivs det från vänster till höger. vokaler tecken skrivs antingen före, efter, på , ovan eller under konsonanter. Det beror på vilka vokaler det är.

การไหว้เป็นวัฒธรรมการทักทายกันของคนไทย



การทักทายของคนไทยไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ถ้ามาพบเจอกันก็จะไหว้ทักทายกันและกล่าวคำว่า

              สวัสดีค่ะ   ( ผู้หญิง)      สวัสดีครับ ( ผู้ชาย )

         Sawasdee ka  ( Kvinan)    Sawasdee krap  ( Man )




ประเพณีการลอยกระทง


                             
                                         



 เป็นประเพณีที่จัดขี้นในเดือนพฤศติกายนของทุกปีซีงจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งก้จะตรงกับเดือนพฤศจิกายน  ในช่วงเวลานี้ก็จะเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก มีน้ำขึ้นเต็มฝั้ง ทำให้เห็นสายน้ำอย่างชัดเจน  และอีกอย่างก้จะตรงกับวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทำให้เราสามาถมองเห็นสายน้ำที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบ เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง

ประวัติความเป็นมา

การลอยกระทงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีชื่อเรียกว่า การลอยพระประทีป หรือลอยโคม เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทํบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งปัจจุบันเป็นแม่น้ำที่อยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย มีชื่อเรียกว่าแม่น้ำเนรพุททา ในสมัยสุโขทัยตามตำนานกล่าวไว้ว่า มีนางสนมองค์หนึ่งมีชื่อว่านางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณะได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกนะทงดอกบัวแทนการลอยโคม เมื่อพระร่วงทรงทอดพระเนตรกระทงของนางพนมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชดำรัสที่ว่า ตั้งแต่นี้สีบไปเบื้องหน้าโดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการะบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน

ในปัจจุบันนั้นประเพณีการลอยกระทงจะหมายถึงการลอยเพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา หรือสำร้ายไปกว่านั้นการลอยกระทงเพื่อการสะเดาะเคราะห์ และจะเน้นมุ่งหวังไปในทางบันเทิงเสียมากกว่า

ประเพณีการลอยกระทงของแต่ละภาค

    ภาคเหนือจะเรียกประเพณีการลอยกระทงว่า ยี่เป็ง หมายถึงการทำบุญในเดือนยี่ นิยมนำโคมลอย เรียกว่าลอยโคม ส่วนใหญ่ การกระทงยี่เป็นอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่




                                       
nl
          จังหวัดตากจะเรียกการลอยกระทงว่า กระทงสายจะเป็นกระทงขนาดเล็กค่อยเรียกให้เป็นสายน้ำ









                              จังหวัดสุโขทัย มีขบวนแห่โคมชักโคม การเล่นพลุ ไฟพะเนียง








ภาคอีสาน ประเพณีการลอยกระทงจะเรียกว่า สิบสองเพ็ง หมายถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง เช่นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดสกลนคร ส่วนในจังหวัดนครพนม จะเรียกว่า ไหลเรือไฟ ที่มีความงดงามอลังการที่สุดในภาคอีสาน








ภาคกลาง มีการจัดประเพณีลอยกระทงขึ้นทั้วทุกจังหวัด เช่น กรุงเทพมหานคร จะมีการจัดงานภูเขาทอง เป็นรูปแบบงานวัด เฉลิมฉลอง 7-8 วัน ก่อนงานลอยกระทง ส่วนจังหวัพระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงกรุงเก่าขึ้นอย่างยิ่งใหญ่บริเวณอุทยายประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา





   ภาคใต้ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นในจังหวัดอื่นก็มีการจัดงานลอยกระทงเช่นกัน






Välkommen till Thailändska undervisning , Plugga Thai ภาษาไทยที่น่ารู้

Välkommen till min Thailändska - sida!

Jag heter Jaruwan Paulsson. Jag undervisa i Thailändska och studiehandledning på modersmål att stödja kunskapsutvecklingen hos eleverna.





Thai eller thailändska är det officiella språket i Thailand. Thai språket skapats av kung Ramkhamheang. Thailändska är blandning av pali ( medelindiskt språk), sanskrit ( klassisk indiska ) och khmer ( kambodja språket ). Thai tillhör språkfamiljen Tai-Kadaispråk. Thaiskrift har 44 konsonanttecken som representerar 21  distinkta konsonantljud och 48 vokal och diftong ljud. Dessutom finns fyra stycken tonmärken och tre andra specialsymboler upprepning förkortning och etcetera. Thailändska finns fen toner- låg, normal, hög, stigande och fallande ton. När man säger ett ord med exempelvis stigande eller fallande ton så kan det betyda helt skilda saker. Toner är svårt att lära sig för västerlänningar när det gäller att lära sig perfekt  uttal, eftersom fem fonemiska toner inte förekommer i europeiska. Grammatik är enkel. Mening struktur bygger på rak ordföljd  Subjekt + verb+ objekt och adjektiv följer efter substantiv. Det finns inte plural form i thailändska. Det har inte tempus. Ett ord eller två ord är adderade för att bestämma dåtid eller framtid. Det håller sig till en enkel present form och använder inte slang och uttalar inte heller ljud som "th" och "z". Vilket inte alls finns i det thailändska språket. vissa Thailändska ljud finns inte heller i västeuropeiska språk. I Thailändska skrivs det från vänster till höger. vokaler tecken skrivs  antingen före, efter, på , ovan eller under konsonanter.  Det beror på vilka vokaler det är.




Video som presenterar Thailand













ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักธงชาติไทยก่อน ธงชาติไทยมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธงไตรรงค์


มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และใช้สีด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ สีเแดง สีขาว และสีน้ำเงิน สีแดง 


มีความหมาย ชาติ  สีขาว หมายถึง ศาสนา สีน้ำเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ ธงชาติไทยจะมี


ลักษณะดังรูปภาพด้านล่างนี้